thumbsup » LINE MUSIC จับมือ GMM Grammy พร้อมขึ้นแท่นแอปที่มีเพลงไทยมากที่สุดในประเทศ

LINE MUSIC จับมือ GMM Grammy พร้อมขึ้นแท่นแอปที่มีเพลงไทยมากที่สุดในประเทศ

6 ตุลาคม 2015
3   0

Screen Shot 2015-10-06 at 4.14.16 PM

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา LINE ประเทศไทยได้เปิดตัวบริการ LINE Music ครั้งแรกด้วยการให้บริการ Content ด้านเสียงเพลง และในครั้งนี้ก็เป็นการจับมือกันครั้งสำคัญกับ GMM Grammy ที่จะทำให้คลังเพลงมีเพิ่มกว่า 50,000 เพลง พร้อมตัวเลขผู้ใช้งานล่าสุดอยู่ที่ 5 ล้านรายหลังการเปิดตัว 5 เดือน

การจับมือกันครั้งนี้ถือว่าเป็นความร่วมมือกันครั้งสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกในการฟังเพลงมากขึ้น เพราะค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของไทยอย่าง GMM Grammy พร้อมแล้วที่จะให้บริการเพลงบนออนไลน์เพื่อให้ผู้ฟังสามารถเข้าถึงเพลงที่ต้องการได้ทุกที่ทุกเวลา

IMG_0018

LINE โดยคุณ ซอก จุน อิม หัวหน้าฝ่าย LINE MUSIC Global ได้พูดถึงการจับมือกันเป็นพันธมิตรกับทาง GMM Grammy ว่า การเลือกครั้งนี้เพราะความเป็นที่หนึ่งในประเทศไทยที่ GMM Grammy เป็นอยู่ รวมทั้งได้มีการเจรจามานานแล้วรวมทั้งตัวเลือกที่มีอย่างมากมายจากค่ายในเครือที่มีเพลงหลากหลาย

IMG_0023

ทาง GMM GRAMMY โดยคุณกริช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริการ สายงาน GMM Music พูดถึง LINE MUSIC บอกว่า LINE เป็นช่องทางในการเผยแพร่และการเข้าถึงมากขึ้น เพลงเป็นตัวเชื่อมโยงคนในครอบครัว เพราะคนในครอบครัวก็โตมากับเพลงของ GMM Grammy มา และที่สำคัญเรามี Playlist เพลงหลากหลายรูปแบบ ซึ่งตอบโจทย์กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย รวมไปถึงการแชร์ลงช่องทางต่างๆ นอกจากนั้นการฟังเพลงก็จะสามารถทำได้ไม่ว่าจะอยู่สถานที่ไหนก็ตามแบบไร้ข้อจำกัด

IMG_0025

ปัจจุบันมี Master เพลงของ GMM Grammy มีอยู่ประมาณ 50,000 เพลง มีทุกแนว รวมไปถึงเพลงหาฟังยากๆ เก่าๆ หรือจะเป็นเพลงบรรเลง และเพลงที่นำไปขายในต่างประเทศก็จะมีให้ฟังในนี้ โดยใน LINE MUSIC จะมีรายละเอียดของเพลงทั้งหมดแสดงให้เห็นขณะที่ฟังด้วย

จำนวนเพลงไม่ได้หยุดแต่ 50,000 เพลง แต่เมื่อมีเพลงใหม่ ก็จะถูกนำมาให้ฟังบน LINE MUSIC ด้วยเช่นกัน

ปัจจุบัน LINE ในประเทศไทยมีผู้ใช้งาน 33 ล้านคนแล้วและมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ การมาของ LINE MUSIC ก็จะช่วยกระตุ้นการเพิ่มจำนวนขึ้นด้วยเช่นกัน

IMG_0046

ช่วง Q&A

  • มีการเปรียบเทียบกันระหว่างช่องทางยอดฮิตอย่าง YouTube ซึ่งจุดที่ยกมาเปรียบเทียบให้เห็นแบบชัดเจนก็คือการกิน bandwidth หรือการใช้ปริมาณข้อมูลเยอะ แต่ LINE MUSIC ซึ่งมีเฉพาะ Audio จะกินน้อยกว่า
  • รูปแบบการสร้างรายได้ YouTube มี Ads Based เน้นโฆษณา แต่ LINE เป็น Subscription Based มี revenue sharing ที่เห็นชัดเจน
  • มองพฤติกรรมของคนในยุคนี้เปลี่ยนไปแบบชัดเจน คนฟังเพลงยุคนี้ ฟังกันเยอะขึ้นเป็นพันๆ เพลงต่อเดือน แต่กลับกันว่าเงินที่จะจ่ายมีน้อยลง การมีบริการ Streaming เลยเป็นสิ่งที่น่าสนใจและตอบสิ่งที่เป็นอยู่ได้อย่างดี
  • ปัจจุบัน Digital Music กินส่วนแบ่งทางการตลาด 1 ใน 4 ในปีนี้
  • ความคาดหวังของ LINE ต่อ LINE MUSIC ในปีนี้ หวังว่าจะมียอดดาวน์โหลดถึง 10 ล้านคน แต่ด้วยการเป็นอุตสาหกรรมใหม่ด้านเพลง เลยหวังจำนวน Paid User อยู่ที่ประมาณ 7-8%
  • LINE ไม่หยุดที่จะหา Partner มีการอยู่เรื่อยๆ และเพลงที่มีอยู่ในระบบก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันเช่นกัน

[source: http://thumbsup.in.th/2015/10/line-music-gmm-grammy-partnership/]