ประเด็นเรื่องการนำซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สไปใช้งานหารายได้ แล้วไม่นำกำไรที่ได้ส่งกลับสู่ชุมชน เป็นสิ่งที่ถกเถียงกันในโลกโอเพนซอร์สตลอดมา (กรณีล่าสุดคือ WordPress กับ WP Engine และ WordPress กับ 37signals ก่อนหน้านี้มีอีกหลายสมรภูมิ เช่น Elasticsearch กับ AWS และ Redis)
ปัญหาที่เกิดมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีนักพัฒนาซอฟต์แวร์และบริษัทเทคโนโลยีกลุ่มหนึ่ง (ส่วนใหญ่เป็นบริษัทรายเล็ก) รวมตัวกันตั้งกลุ่ม Open Source Pledge เรียกร้องให้บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำเงินจากโอเพนซอร์ส ช่วยกันจ่ายเงินอุดหนุนให้นักพัฒนาที่ดูแลโครงการเหล่านั้นด้วย อย่างน้อยควรอยู่ระดับ 2,000 ต่อปีต่อนักพัฒนาของบริษัทเองหนึ่งคน โดยจะเลือกจ่ายเข้านักพัฒนาโดยตรงหรือมูลนิธิที่ดูแลโครงการโอเพนซอร์สก็ได้
บริษัทใหญ่ที่สุดในกลุ่ม Open Source Pledge คือ Sentry เปิดเผยว่ามีนักพัฒนาในบริษัท 135 คน จ่ายเงินให้วงการโอเพนซอร์สปีละ 270,000 ดอลลาร์ หรือหารออกมาแล้วตก 3,700 ดอลลาร์ต่อพนักงานหนึ่งคน ซึ่ง Sentry บอกว่าเงินจำนวนนี้ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้ของบริษัทปีละ 100 ล้านดอลลาร์ แต่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อวงการโอเพนซอร์ส ตัวอย่างบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มได้แก่ HeroDevs, Antithesis, StackBlitz, Prefect, Laravel เป็นต้น
กลุ่ม Open Source Pledge ยังรวมตัวกันออกเงินซื้อป้ายบิลบอร์ดริมถนนในย่านซานฟรานซิสโก นครหลวงของวงการไอทีโลก เพื่อเรียกร้องให้ซีอีโอ ซีทีโอ ซีเอฟโอ ของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่นั่งรถผ่านได้มองเห็น และกระตุ้นให้คนเหล่านี้มาสนใจจ่ายเงินให้วงการโอเพนซอร์สด้วย
ที่มา - Sentry, The Register
Happy Friday, especially to @thePledge member company CFOs! pic.twitter.com/6KJcbLMxy5
— Open Source Pledge ⇌ (@ThePledge) October 18, 2024
Let’s get this to 100m$. A lot of you are starting to plan for next year, if you depend on OSS make a case to help sustain it. Thank you to everyone who has joined already but work is not done. pic.twitter.com/bkrGe11q4i
— Milin Desai (@virtualmilin) October 8, 2024