หายหน้าหายตาจากเวปไปหลายวัน พอดีผมแอบแว่บไปเที่ยวญีุ่ปุ่นมาครับ ซึ่งจากที่ไปตะลอนๆ เดินจนเมื่อยขา นั่งรถไฟจนเมื่อยตูด ในวันสุดท้ายก็มีโอกาสได้เข้าไปในเมืองฮาคาตะ และไปลองเล่น Samsung Galaxy Note Edge อยู่แว้บนึง ซึ่งบอกเลยว่าแว้บเดียวจริงๆ เพราะมัวแต่ไปเดินหาซื้อของ กว่าจะมาเห็นว่าทั้งทางค่าย NTT Docomo และ au นั้นเปิดให้จอง Note Edge แถมมีเครื่องตั้งให้ลองเล่น ห้างเค้าก็จะปิดแล้ว
วัสดุตัวเครื่อง น้ำหนักไม่ได้หนีจาก Note 4 สักเท่าไหร่ หน้าจอกระจก 2.5D โค้งเป็นชิ้นเดียว ดูสวยงาม เครื่องดูแปลกตา เลยมีเสน่ห์แบบแปลกๆ เห็นแล้วแอบอยากได้เหมือนกัน ฮ่าๆ
จากที่ได้ลองจับๆ ดูตัวเครื่องมันใหญ่จริงๆ และความรู้สึกตอนถือมันจะแปลกๆ หน่อยๆ เพราะหน้าจอโค้งๆ ด้านข้างนี่แหละ ที่ทำให้ขอบอีกด้านมันรู้สึกจับได้ไม่เต็มมือ เพราะกลัวว่านิ้วมันจะทะลึ่งไปโดนอย่างอื่นแล้วมันจะไปเปิดแอพหรือไปทำอะไรแปลกๆ ประมาณนั้น
ที่เห็นว่าจอด้านข้างของ Galaxy Note Edge เบลอๆ นี่ ไม่ใช่อะไรนะครับ ผมโฟกัสผิดจุด ฮ่าๆ คือรีบถ่ายรีบลองเล่น เดี๋ยวร้านมันจะปิดซะก่อน ต้องขอโทษด้วย จริงๆ มันคมชัดเหมือนหน้าจอหลักเลย
ฝาหลังนั้นเหมือนกับ Note 4 ทั้งวัสดุแล้วก็ทั้งลวดลายเลยก็ว่าได้ ช่องเสียบ S Pen อยู่ด้านล่าง ซึ่งผมหา S Pen ไม่เจอ สงสัยพนักงานเอาไปเก็บไว้ แต่ไม่เป็นไร เพราะฟังก์ชั่นและการใช้งานทั้งหมดมันเหมือนกับ Note 4 นั่นแหละ เว้นแต่ Note Edge มีจอโค้งด้านข้างเท่านั้น
ตัวเคสฝาพับนี่ไม่มีแล้วช่อง S View เพราะมาจอใช้ด้านข้างตรงนี้แสดงผลแทน
มีเวลาลองจับลองเล่นแค่ขำๆ จริงๆ ไม่เกิน 10 นาทีครับ เพราะร้านกำลังจะปิด ก็เลยพยายามถ่ายคลิปมาสั้นๆ ให้เห็นการทำงานเล็กๆ น้อยๆ ของหน้าจอด้านข้าง ซึ่งผมได้ลองสอบถามกับพนักงานในร้านแล้ว เรียกว่าคุยกันจนเมื่อยมือไปหมด เค้าก็เดาๆ ว่า Galaxy Note Edge น่าจะเปิดราคาในญี่ปุ่นราวๆ 99,000 เยน หรือราวๆ 30,000 บาทไทยครับ ส่วนในบ้านเราแทบจะยืนยันได้แล้วว่าคงไม่เอาเข้ามาจำหน่าย เพราะจริงๆ แล้ว Note Edge นี่ก็มีแผนที่จะผลิตเครื่องแแกมาเป็นจำนวนจำกัด และขายแค่ในบางประเทศเท่านั้น
ความรู้สึกหลังจากได้ลองเล่นไปเล็กน้อยบอกเลยว่าแอบอยากได้เหมือนกัน แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าได้ลองเล่นจริงจังสักครึ่งวันจะยังอยากได้หรือเปล่า ฮ่าๆ คือมันสวยแบบแปลกๆ ดี ดูล้ำนิดๆ ไม่เหมือนใคร แต่บางคนอาจจะบอกว่าหน้าตามันตลก อันนี้ก็แล้วแต่ครับ ถึงแม้บ้านเราจะไม่มีขายแต่ผมว่าเครื่องหิ้วน่าจะมีแน่นอนหลังจากที่่มันวางจำหน่ายทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่นครับ
[source: http://droidsans.com/mini-preview-samsung-galaxy-note-edge]