พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ที่ประชุมมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้
โดยประกาศลดระยะเวลาห้ามออกนอกเคหสถานจากเดิม 21.00-04.00 น. เป็น 22.00-04.00 น. และธุรกิจประเภทร้านเสริมสวย, นวดและสปา, สถานเสริมความงาม, โรงภาพยนตร์ และเล่นดนตรีในร้านอาหาร สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 นี้
ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังคงต้องไม่ประมาท ทางศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 ( ศปก.สธ.) ยังต้องเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิดให้ทั่วถึง ติดตามการกระจายเวชภัณฑ์
ขณะเดียวกันก็จะขยายรูปแบบ Sandbox ในส่วนกิจการและกิจกรรมอื่นๆ ให้มากขึ้น อาทิ ปรับกิจกรรมภายในโรงแรมเพื่อรองรับการท่องเที่ยว เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวและการเปิดประเทศต่อไป
นับตั้งแต่การระบาดระลอกแรก ภาคแรงงานและภาคประชาชนได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับโควิดมากขึ้น ภาคเอกชนได้เตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดได้เป็นอย่างดี
สำหรับการปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด ตั้งแต่วันท่ี 1 ตุลาคม 2564 จะอนุญาตให้เปิดกิจการและกิจกรรม ดังนี้
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
- ห้องสมุด
- พิพิธภัณฑ์
- ศูนย์การเรียนรู้
- ร้านทำเล็บ
- ร้านสัก
- สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (นวดและสปา)
- กีฬาในร่ม
- โรงภาพยนตร์
- การเล่นดนตรีในร้านอาหาร
ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจที่ยังไม่เปิดดำเนินการ ได้แก่ ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ
รวมทั้งลดเวลาห้ามออกจากเคหสถานจาก 21.00-04.00 น. เป็น 22.00-04.00 น. อย่างน้อย 15 วัน โดยจะขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ครั้งที่ 14 ออกไปอีก 2 เดือน หรือให้มีผลบังคับจนถึงวันที่ 30 พ.ย.64 และให้เลื่อนการเปิดพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ในพื้นที่จังหวัดนำร่อง
ซึ่งก่อนหน้านี้เตรียมให้จังหวัดเป็นพื้นที่นำร่อง เปิดพื้นที่ท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์ ในวันที่ 1 ต.ค. 64 โดยขยับไปเป็นวันที่ 1 พ.ย.64
สำหรับกิจการและกิจกรรม เปิดบริการได้ถึง 21.00 น. ได้แก่ ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ กีฬากลางแจ้งหรือในร่มเป็นที่โล่ง กีฬากลางแจ้งมีผู้ชมได้ร้อยละ 25 ส่วนร้านอาหารที่เปิดให้เล่นดนตรีภายในร้านได้ แต่ยังต้องงดดื่มสุรา
ทางด้านของการปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ได้ปรับลดระยะเวลาในการกักกันสำหรับผู้มีเอกสารวัคซีนโควิดครบ เหลือ 7 วัน ในส่วนผู้ที่ยังไม่มีเอกสารวัคซีน ให้กักตัวตั้งแต่ 10-14 วัน สำหรับการเดินทางเข้าประเทศทางอากาศ ให้กักตัว 7 วัน ทางน้ำและทางบก กักตัว 10-14 วัน อนุญาตให้ทำกิจกรรมในสถานที่กักกันฯ ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ทั้งนี้ ได้มีการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี, เขาหลัก เกาะยาว จ.พังงา และเกาะพีพี เกาะไหง หาดไร่เลย์ คลองม่วง ทับแขก จ.กระบี่
และแนวทางเปิดพื้นที่เพิ่มเติม 10 จังหวัด เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, จ.กระบี่, จ.พังงา (ทั้งจังหวัด), จ.ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน หนองแก), จ.เพชรบุรี (ชะอำ), จ.ชลบุรี (พัทยา บางละมุง จอมเทียน บางเสร่), จ.ระนอง (เกาะพยาม), จ.เชียงใหม่ (อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า), จ.เลย (เชียงคาน) และ จ.บุรีรัมย์ (เมือง)
ที่มา : CH7, The Standard
The post พรก.ฉุกเฉินถึง 30 พ.ย. ธุรกิจเริ่มผ่อนคลายเปิดให้บริการ ขยับเลื่อนเปิดแซนด์บ็อกไป 1 พ.ย. appeared first on Thumbsup.