thumbsup » 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านครีเอทีฟที่น่าสนใจของปี 2022

10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านครีเอทีฟที่น่าสนใจของปี 2022

4 กุมภาพันธ์ 2022
24   0

ในยุคที่คนเรายังไม่หยุดความคิดสร้างสรรค์ นั่นจึงทำให้รูปแบบการทำงานและการใช้ชีวิตยังคงมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่หยุดยั่ง ไม่ว่าจะอีก 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า มนุษย์เราก็ยังมีความคิดใหม่ๆ ที่จะสรรค์สร้างนวัตกรรม การใช้ชีวิตและเปลี่ยนแปลงสิ่งเดิมๆ สู่สิ่งใหม่

สก็อต เบลสกี้ Chief Product Officer และรองประธานบริหารอะโดบี​ ครีเอทีฟคลาวด์ ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทรนด์เทคโนโลยีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ( The near future of technology ) ที่จะครอบคลุมมุมมองในแง่ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นและส่งผลต่อชีวิตประจำวันของผู้คนและแบรนด์ได้อย่างน่าสนใจ จำนวน 10 ข้อ

  • Favorites ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะเข้ามาแทนที่​

คนเรามักตั้งค่า รายการโปรด​ หรือ “Favorites” เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาหรือเรียกใช้งานซ้ำ แม้จะมีการสำรวจสิ่งใหม่ๆ เพื่อหาความชอบให้หลากหลายขึ้น แต่เราก็มักจะยินดีที่ระบบ AI รวมทั้งอัลกอริธึ่มของแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ คัดเลือกสิ่งที่น่าสนใจมาให้เรา เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ และค้นพบสิ่งใหม่ๆ ทดแทนสิ่งเดิมๆ

อย่างเช่น การเจอคลิปสนุกๆ ใหม่ๆ บน TikTok การขึ้น Reccommend สิ่งที่ต้องการค้นหาบน Google หรือการแสดงเพลย์ลิสต์อัพเดทใหม่ๆ บน Youtube ก็ตาม

  • คนรุ่นใหม่จะมีหลายบทบาท ทำให้องค์กรต้องปรับเปลี่ยน

คนรุ่นใหม่ที่ก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานจะเลือกประกอบอาชีพหลากหลายด้าน หรือที่เรียกว่า “Polygamous Careers” ความต้องการที่จะสร้างรายได้และเติมเต็มชีวิตผ่านการทำงานหลายๆ ด้าน​จะช่วยดึงดูดพนักงานให้อยู่กับองค์กรนานขึ้น

นอกจากนี้ ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในสถานที่ทำงานให้ดีขึ้นได้ด้วย ดังนั้น บริษัทสามารถสรรหาบุคลากรชั้นนำที่ยากจะเข้าถึง ในอาชีพการงานของแต่ละคน ทำให้ในพอร์ตโฟลิโอของแต่ละคนอาจมีความสามารถใหม่ๆ ที่หลายด้านขึ้น

พนักงานเองก็จะได้รับประโยชน์เพิ่มมากขึ้นจากการทำงานที่เราชอบ หรือ “Tune-In Jobs” (รู้สึกเต็มอิ่มและมีส่วนร่วมอย่างมากกับงานที่ทำอยู่) ซึ่งต่างจาก “Tune-Out Jobs” (ซึ่งเราจะสนใจแต่เฉพาะเวลาเข้า-ออกงาน) และโลกของเราก็จะพัฒนาไปข้างหน้าโดยอาศัยบุคลากรที่มีส่วนร่วมกับงานอย่างจริงจัง

  • การเติบโตของ Immersive จะทำให้ผลงาน 3 มิติ กลายเป็นกระแสหลัก

“เมต้าเวิร์ส” (Metaverse) ทำให้การเล่นเกม​ การติดต่อกับเพื่อนๆ และทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานภายในโลกเสมือนจริงเป็นแบบเรียลไทม์ เทรนด์นี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และทุกคนจะเข้าไปมีส่วนร่วมเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับโทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์นี้จะน่าเบื่อและไม่ได้รับความนิยม ถ้าหากไม่มีการใส่คอนเทนต์แบบอินเทอร์แอคทีฟ 3 มิติที่ดึงดูดและมีการปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคล รวมไปถึงสื่อประเภท Immersive

แต่ปัญหาคือ คอนเทนต์ 3 มิติเป็นสิ่งที่สร้างยาก เมื่อก่อนนี้การสร้างวัตถุ 3 มิติ จะต้องใช้โปรแกรมสร้างแบบจำลองที่ซับซ้อน และมีการคำนวณทางคณิตศาสตร์มากมาย จากนั้นก็จะต้องใช้โปรแกรมอื่นๆ อีกหลายโปรแกรมสำหรับการวาดภาพประกอบและเรนเดอร์ ปัจจุบันเราได้เรียนรู้ว่านักออกแบบส่วนใหญ่ต้องการที่จะเริ่มต้นจากวัตถุ 3 มิติในสต็อก แทนที่จะต้องสร้างขึ้นใหม่ตั้งแต่ต้น และวัตถุ 3 มิติในสต็อกที่ว่านี้จะต้องสามารถกำหนดค่าพารามิเตอร์ ควบคุมจัดการได้ง่าย​เพื่อรองรับการทำงานครีเอทีฟ โดยปราศจากความยุ่งยากซับซ้อน

จากนั้นก็ปรับแต่งเพิ่มเติมในโปรแกรมเดสก์ท็อปเพื่อทำให้ดูสมจริงมากขึ้น เราทุกคนจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบ 3 มิติได้ทันทีที่ประสบการณ์แบบ Immersive กลายเป็นที่แพร่หลายในวงกว้าง

  • “Stakeholder Economy” จะขับเคลื่อนแบรนด์เกิดใหม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทยักษ์ใหญ่บนอินเทอร์เน็ต​

ปัจจุบัน แบรนด์ต่างๆ ถูกกำหนดด้วยการสร้างคอนเทนต์ของผู้คน ซึ่งต่างจากการใช้บริการของเอเจนซี่ด้านครีเอทีฟและการซื้อโฆษณา และทุกวันนี้ แบรนด์ต่างๆ จะนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีและสดใหม่ได้จำเป็นต้องอาศัยคอนเทนต์ล่าสุดที่เกิดขึ้น

ถ้าแบรนด์หรือบริษัทที่คุณชื่นชอบสามารถให้คุณเป็นเจ้าของได้ ประโยชน์ที่ได้รับจากการเป็นเจ้าของร่วมกันในบริษัทขนาดเล็กอาจกลายเป็นภัยต่อบริษัทขนาดใหญ่ ถ้า​ ​stakeholders ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนในธุรกิจดังกล่าวมีแรงจูงใจที่จะช่วยสร้าง ปรับปรุง ทำตลาด และสนับสนุนแบรนด์นั้นๆ ก็ย่อมจะช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน​ และในท้ายที่สุดแล้ว ธุรกิจที่อาศัยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนแบบ “many-to-many” น่าจะประสบความสำเร็จในการทำตลาดได้ดีกว่าธุรกิจแบบ “one-to-many”

  • เลือกรับโฆษณามากขึ้น ด้วยประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล

AI จะทำการปรับแต่งการเข้าถึงโฆษณาแบบเฉพาะบุคคล (Personalization) ทำให้การดูโฆษณาเป็นที่นิยมมากขึ้น​ อย่างไรก็ดี “ประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล” จะช่วยทำให้เกิด​การโฆษณารูปแบบใหม่ และโดยมากแล้วเราก็ชอบประสบการณ์แบบนี้มากกว่า

  • การบริการที่ “เพิ่มอำนาจให้แก่ประชาชน” ต่อกรกับผู้มีอำนาจ

การเติบโตของผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ หรือโมเดลธุรกิจที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน จะมีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งบริการทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองให้แก่ประชาชน แทนที่จะต้องรอรับบริการในระบบที่อยู่เกินอำนาจการควบคุมของประชาชน ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนอกจากจะช่วยเหลือประชาชนแล้ว ยังเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐและบริษัทขนาดใหญ่เข้ามามีบทบาทและดำเนินการอย่างรับผิดชอบ

  • องค์กรจะแปรเปลี่ยนเป็น​ Immersive Experience รองรับ​ multi-player

สิ่งที่คนไม่ค่อยพูดถึงกันก็คือ เรื่องของค่าใช้จ่ายและข้อเสียของระบบผู้เล่นหลายคน (Multi-player) ไม่ว่าจะเป็น แอปที่มีประสิทธิภาพน้อยลงเมื่อรองรับการทำงาน​ร่วมกันมากขึ้น หรือโปรโตคอลที่อาศัยฉันทามติ​ (consensus)​ บนบล็อกเชน คนรุ่นใหม่มีทัศนคติที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับคุณประโยชน์และข้อเสียที่ตามมา กล่าวคือ คนกลุ่มนี้ต้องการที่จะทำงานร่วมกันมากกว่า แม้ว่าจะมีปัญหาและความล่าช้าเกิดขึ้น เมื่อเทียบกับการทำงานโดยลำพังเพียงคนเดียว แต่ทำได้เร็วกว่า

  • คนรุ่นใหม่ชื่นชอบรูปแบบการใช้ชีวิต​และการทำงานแบบมีอิสระมากขึ้น ​(Nomad)

คนหนุ่มสาวเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ตามบ้านเช่าหรือเปลี่ยนที่พักไปเรื่อยๆ ตามที่ต่างๆ ทั่วโลก ทำงานจากระยะไกล และดื่มด่ำกับวัฒนธรรมในชุมชนที่อาศัยอยู่เพิ่มมากขึ้น ประสบการณ์ดังกล่าว จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา และกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ การยอมรับความหลากหลายอย่างเปิดกว้าง และการค้นหาตัวเองจะส่งผลดีต่อชีวิตส่วนตัวและอาชีพการงาน มีผลิตภัณฑ์ หรือเครือข่ายประเภทใดบ้างที่จะช่วยให้ทุกคนเข้าถึงประสบการณ์ดังกล่าวได้ง่ายขึ้นและเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง? แน่นอนว่าองค์กรที่ปรับเปลี่ยนไปสู่ทิศทางนี้จะประสบความสำเร็จในอนาคต

  • โมเดลแฟรนไชส์แบบย้อนกลับและ “Eduployment” จะขับเคลื่อนการเติบโต

แนวคิดเรื่อง “Eduployment” จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะปลดล็อคอาชีพหลายล้านตำแหน่งในช่วงเวลาหลายปีนับจากนี้ Eduployment เป็นการบูรณาการเชิงลึกของการทำธุรกิจ การศึกษา และการหางานหรือเปิดบริษัทใหม่ ซึ่งบริษัทแฟรนไชส์ยุคใหม่ก็จะเน้นการสอนประสบการณ์หรือพัฒนาขีดความสามารถของคนให้มีโอกาสและทางเลือกหลากหลายขึ้น

  • ยุคของอัตลักษณ์ที่หลากหลาย เราค้นหา ยอมรับ และแสดงออกซึ่งตัวตนที่หลากหลาย

ยุคสมัยล่าสุดของโซเชียลเน็ตเวิร์ก ยอมรับหรืออย่างน้อยก็รองรับการใช้นามแฝง แต่ในยุคหน้า โซเชียลเน็ตเวิร์ก จะถูกปรับปรุงให้สอดคล้องกับความจริงที่ว่าผู้ใช้ทุกคนมีอัตลักษณ์ที่หลากหลาย แน่นอนว่าโดยธรรมชาติแล้วมนุษย์เราไม่ต้องการที่จะถูกจำกัดหรือจำแนกด้วยอัตลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวที่ถูกกำหนดโดยคนอื่นๆ รอบตัวเรา

แม้ว่าเรามีจินตนาการและความต้องการที่จะเป็นใครสักคนในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างหลากหลาย ซึ่งต่างจากสิ่งที่คนอื่นๆ บอกว่าเราเป็น แต่ก็มีอุปสรรคและแรงเสียดทาน ข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์และสถานการณ์แวดล้อม (ภูมิลำเนา รูปร่างหน้าตา คนที่คุณพบเจอ) ที่ถูกกำหนดอย่างตายตัวมากเกินไป และจะต้องใช้ความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น และความท้าทายอย่างมากเพื่อจะสามารถหลุดจากกรอบที่ว่านี้

The post 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านครีเอทีฟที่น่าสนใจของปี 2022 appeared first on Thumbsup.

[source: https://www.thumbsup.in.th/10-trend-creative-2022?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=10-trend-creative-2022]