จากข้อมูลของ National Institutes of Health. พบว่าปัจจุบัน 1 ใน 8 ของเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป พบปัญหาสูญเสียการได้ยิน แต่ปัญหาก็คือเครื่องช่วยฟังนั้นยังมีราคาแพงอยู่ เพราะเครื่องช่วยฟังราคาถูกสุดเริ่มต้นที่ 1,500 ดอลลาร์แพงสุดอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์
ทางกลุ่มนักวิจัยจาก National Yang Ming Chiao Tung University ของไต้หวัน จึงได้ทำการทดสอบหูฟัง AirPods ว่าจะสามารถใช้ทดแทนกันได้รึไม่ เพราะ AirPods 2 และ AirPods นั้นมีราคาถูกกว่า สิ่งสำคัญคือคุณสมบัติของ AirPods Pro ตรงกับ 4 ใน 5 มาตรฐานของเทคโนโลยีช่วยฟัง โดยเฉพาะฟีเจอร์ noise canceling ที่สลับโหมดไปยังโหมด Transparency ที่เปิดให้ได้ยินเสียงจากภายนอกได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่กดที่ก้านหูฟัง
นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ Live Listen ที่ปล่อยมาตั้งแต่ปี 2016 ที่ใช้หูฟังไร้สายและไอโฟนเป็นตัวช่วยขยายเสียง สำหรับช่วยให้คนที่มีปัญหาทางการได้ยินได้ยินเสียงชัดเจนขึ้น ส่วนคนทั่วไปก็สามารถใช้ได้อย่างใช้ในการฟังเสียงธรรมชาติ เสียงนกร้อง การใช้ฟีเจอร์นี้เราต้องเชื่อมต่อ AirPods กับ iPhone ก่อน จากนั้นให้เข้าที่ control center กดที่ไอคอนรูปหู
นักวิจัยได้ทดสอบการใช้ 4 อุปกรณ์กับผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยิน 21 คนซึ่งมีอาการระดับเริ่มต้นจนถึงระดับกลางๆ โดยทำการอ่านข้อความสั้นๆให้ฟัง จากนั้นจะให้ผู้ร่วมทดสอบที่สวมหูฟัง พูดทวนประโยคที่ได้ยินซ้ำอีกครั้ง ซึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องช่วยฟังมาตรฐานแล้วถือว่าทำได้ดีในสภาพแวดล้อมที่เสียงค่อนข้างเงียบ แต่ถ้าเทียบกับรุ่นแพงแล้วก็ถือว่าต่างกันพอสมควร ส่วน AirPods 2 นั้นมีประสิทธิภาพน้อยสุด แต่ก็ยังช่วยให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจนขึ้นเมื่อเทียบกับการไม่ใส่เครื่องช่วยฟัง
ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมากๆ AirPods Pro นั้นมีประสิทธิภาพพอๆกับเครื่องช่วยฟังแบบพรีเมียมในกรณีที่เสียงรบกวนนั้นดังมากจากด้านหลังหรือด้านข้างของผู้สวม แต่ถ้าเสียงรบกวนดังมาจากด้านหน้านั้น AirPods ทั้งสองรุ่นไม่สามารถช่วยให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจน
ทาง Ying-Hui Lai ผู้ร่วมทำวิจัยจาก National Yang Ming Chiao Tung University ของไต้หวันบอกว่า เหตุผลหลักคือ เรื่องการเดินทางของคลื่นเสียง และอัลกอริทึ่มในการประมวลผลสัญญาณเสียง การค้นพบในครั้งนี้จะช่วยจุดประกายให้วิศวกรออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น โดยช่วยลดเสียงรบกวนในทิศทางที่ยังทำได้ไม่ดี.
แน่นอนว่าหูฟังไร้สายนั้นยังไม่สามารถแทนเครื่องช่วยฟังได้สมบูรณ์ ซึ่งในอนาคตทางผู้ผลิตจะได้เอาไปปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ช่วยให้ผู้มีปัญหาทางการได้ยินเข้าถึงอุปกรณ์ช่วยฟังที่เข้าถึงได้ในราคาสบายกระเป๋า ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ที่มา https://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-11430353/Could-Apple-AirPods-work-HEARING-aids-AirPods-perform-10K-hearing-aids.html