ข่าวไอที Blognone » All Flash Storage หัวใจของแอปยุคใหม่ที่ต้องรองรับการใช้งาน ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

All Flash Storage หัวใจของแอปยุคใหม่ที่ต้องรองรับการใช้งาน ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

6 กรกฎาคม 2020
7   0

การมาถึงของเศรษฐกิจในยุคดิจิทัลไม่ได้ก่อให้เกิดเพียงแค่เปลี่ยนวิธีการทำงานขององค์กรที่หันมาใช้งานบริการออนไลน์ ลดขั้นตอนการทำงานต่างๆ ลง แต่ยังทำให้เกิดความคาดหวังของลูกค้าและพนักงานที่ต้องการการตอบสนองจากแอปพลิเคชั่นอย่างรวดเร็ว การที่แอปพลิเคชั่นทำงานได้ช้าไม่ตอบสนองต่อการทำงานอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานจนองค์กรขาดความสามารถในการแข่งขันในที่สุด

No Description

สาเหตุที่ทำให้แอปพลิเคชั่นตอบสนองได้ช้ามีหลากหลายสามเหตุทั้งตัวแอปพลิเคชั่นไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานส่วนต่างๆ ที่อาจจะไม่มีประสิทธิภาพดีพอสำหรับการใช้งาน โดยในยุคการเก็บข้อมูลธุรกิจอย่างกว้างขวาง เราพบว่าประสิทธิภาพของระบบจัดเก็บข้อมูลมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพโดยรวมของแอปพลิเคชั่นเอง

กระแสการมุ่งสู่ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบออลแฟลช (All Flash Storage)

สำหรับคอมพิวเตอร์พีซีเราคงเห็นการปรับมาใช้งานจากฮาร์ดดิสก์แบบหมุน (rotating disk) มาเป็น Solid State Disk (SSD) แทนกันเป็นวงกว้าง คอมพิวเตอร์จำนวนมากมาพร้อมกับ SSD เพียงอย่างเดียวแล้วทุกวันนี้ การเก็บข้อมูลระดับองค์กรเองก็ไปในทางเดียวกัน เพื่อทำให้แอปพลิเคชั่นตอบสนองผู้ใช้งานได้ดีที่สุด

ระบบเก็บข้อมูลแบบ SSD ทั้งหมดหรือ All Flash Array เป็นทางเลือกสำหรับการใช้งานกับแอปพลิเคชั่นที่มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลขนาดใหญ่ ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่นการวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังหรือการพัฒนางานในกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ที่ล้วนต้องใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ทั้งสิ้นทำให้องค์กรล้วนมีแนวทางอัพเกรดระบบสตอเรจไปยัง All Flash Array แนวทางเช่นนี้ทำให้ตลาดรวมของ All Flash Array มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี 2018 อยู่ที่ 5.9 พันล้านดอลลาร์ กลุ่มวิจัย Markets and Markets คาดว่าจะเพิ่มถึง 17.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 นี้

OceanStor Dorado ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เป็นผู้นำทั้งประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ

หัวเว่ยรู้ว่าลูกค้าต้องการประสิทธิภาพสูงสุดพร้อมกับความน่าเชื่อถือของระบบที่ต้องรับผิดชอบข้อมูลสำคัญขององค์กรตลอดเวลา OceanStor Dorado ที่เป็นระบบสตอเรจแบบออลแฟลชจึงไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนจากสตอเรจแบบจานหมุนมาเป็น SSD เท่านั้น แต่หัวเว่ยเป็นบริษัทแรกที่ใช้โปรโตคอล NVMe กับระบบสตอเรจเต็มรูปแบบ แบบ end-to-end ทำให้ระยะเวลาส่งข้อมูล (latency) ระหว่างซีพียูและสตอเรจเหลือเพียง 0.081ms เท่านั้น

นอกจากประสิทธิภาพสูงสุด OceanStor Dorado ยังสามารถขยายระบบรองรับความต้องการขนาดต่างๆ ได้ทั่วถึง โดยสามารถขยายหน่วยควบคุมการจัดเก็บข้อมูลไปถึง 32 controller รองรับอัตราการอ่าน-เขียนสูงสุดที่ 20 ล้าน IOPS โดยมีฟีเจอร์ Smart Matrix ตรวจสอบเสถียรภาพของระบบสตอเรจให้ทำงานได้ต่อเนื่อง สามารถทนทานต่อกรณีตัวควบคุมเสียหายได้สูงสุด 7 controller แต่ยังทำงานต่อไปได้ด้วยการทำ load balancing กระจายโหลดออกไป

No Description

การจัดการสตอเรจขนาดใหญ่และซับซ้อนไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับ OceanStor Dorado ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยจัดการทำนายถึงการจัดการที่เหมาะสม กระบวนการดูแลและบำรุงรักษา (operation and maintenance - O&M) โดยรวมจะประหยัดเวลาลงมากด้วยเครื่องมือ Device Manager ที่ทำงานได้ครบวงจร

No Description

โครงการ Flash Ever อัพเกรดให้ OceanStor Dorado ช่วยอิมพลีเมนต์การทำงานแบบ Intelligent O&M ลูกค้าที่เข้าโครงการสามารถอัพเกรดระบบควบคุมการจัดเก็บข้อมูลใหม่ทุกสามปีโดยไม่ต้องทำ data migration ให้ยุ่งยาก และยังรับประกันถึงความสามารถในการบีบอัดข้อมูลว่าจะได้สัดส่วนตามประเภทงาน

ทั้งหมดทำให้ OceanStor Dorado มีตัวเลือกที่ครบถ้วนทั้งตัวเทคโนโลยีที่เหนือชั้นและบริการระดับสูง ในยุคที่การปรับปรุงให้บริการต่างๆ มีประสิทธิภาพสูงสุดเป็นเรื่องจำเป็น และการลงทุนระบบสตอเรจแบบออลแฟลชเป็นสิ่งที่หลีเลี่ยงไม่ได้สำหรับหลายองค์กร OceanStor Dorado ของหัวเว่ยมอบได้ทั้งประสิทธิภาพระดับสูง, ความน่าเชื่อถือสำหรับบริการสำคัญที่เป็นหัวใจธุรกิจ, และบริการระดับพรีเมี่ยม เพื่อช่วยให้องค์กรสร้างความคุ้มค่าและประหยัดในระยะยาว

สนใจ OceanStor Dorado ของหัวเว่ยอ่านข้อมูลการทดสอบประสิทธิภาพ OceanStor Dorado ของบริษัทวิจัย ESG เพิ่มเติม หรือติดต่อขอข้อมูลและใบเสนอราคาได้ที่เว็บไซต์หัวเว่ยประเทศไทย

[source: https://www.blognone.com/node/117317]